Support
Aircard Service
0864473995, 0875174855
Your shopping cart
ดูตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณ

แอร์การ์ด (Aircard) คืออะไร?

วันที่: 2013-06-25 16:21:25.0

แอร์การ์ด คือ อุปกรณ์ประเภทโมเด็มอย่างหนึ่งที่ใช้เชื่อมคอมพิวเตอร์เข้ากับเครือข่ายอินเตอร์เน็ตแบบไร้สายด้วยความเร็วสูงผ่านโครงข่ายสัญญาณโทรศัพท์มือถือ โดยที่ระหว่างที่เราเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตก็ยังสามารถที่จะโทรเข้า-ออกได้ในเวลาเดียวกัน เพราะว่าใช้คนล่ะช่องสัญญานกัน แต่อยู่ใน Cellsite เดียวกัน หรือมีคุณสมบัติเป็นแฟกซ์ไร้สายได้ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนขอแค่เพียงว่าเรามีสัญญาณมือถือเราก็สามารถใช้งานได้

ความแตกต่างระหว่างแอร์การ์ด กับ วายฟาย (Wi-Fi)

Wi-Fi คือคุณสัมบัติหนึ่งที่ทำให้เราสามารถที่จะเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตด้วยช่องทางไร้สายที่มีระยะไม่เกิน 100 เมตรจากเครื่องแม่ข่ายของ Wi-Fi นั้นๆ ซึ่งถ้าปราศจากตัวแม่ข่ายนี้ก็จะไม่สามารถใช้งานได้
ส่วนแอร์การ์ดจะเป็นโมเด็มอย่างหนึ่งที่ใช้เชื่อมต่อเข้ากับเครื่อข่ายอินเตอร์เน็ตผ่านทางคลื่นสัญญาณของเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ซึ่งมีการเชื่อมสัญญาณเข้ากับ Cellssite ของเสาโทรศัพท์ จึงทำให้เล่นเน็ตที่ไหนก็ได้ที่มีสัญญาณ


แอร์การ์ด ( Air Card )แบบไหนดีกว่ากัน

ซื้อแอร์การ์ดแบบไหนกันดีระหว่าง USB กับแบบ Slot

 

สำหรับคนที่ยังลังเลชนิดว่างงๆอยู่ว่าจะเอายังไง และสงสัยเกี่ยวกับชนิดของแอร์การ์ดที่แยกย่อยออกเป็นอีกหลายชนิดซึ่งนอกจากจะมีแบบ USB ที่เรามักจะเห็นกันอยู่โดยทั่วไปแล้วยังมีแบบอื่นๆอีกคือ แบบ Express Card หรือ PCMCIA Card/ Cardbus/ PC Card บอกมาอย่างนี้แล้วบางคนก็คงจะถึงบางอ้อ มันก็คือรูเล็กๆของโน๊ตบุ๊คที่มีอยู่แทบทุกรุ่นซึ่งหลายรุ่นก็มีไม่เหมือนกัน เป็นช่องใส่แอร์การ์ด แบบ Express Card มาถึงตอนนี้เราลองมาเปรียบเทียบกันว่าแอร์การ์ดแบบ USB กับแบบ Slot มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันอย่างไร 

  • มาดูแอร์การ์ดแบบ USB กันก่อน ตัวนี้จะดีตรงที่ใช้งานได้กับเครื่อง PC และ Notebook ทุกเครื่อง และเชื่อมต่ออืนเตอร์เน็ตกับอุปกรณ์เพียง 1 ชิ้นเท่านั้น ซึ่งข้อดีของ Aircard แบบ USB ก็คือ ราราถูก และสามารถรองรับความเร็วสูงสุด ของการเชื่อมต่อแบบ 3G ได้เต็มที่ 
  • มาแบบที่สองแอร์การ์ดแบบ Slot จะใช้ได้เฉพาะโน๊ตบุ๊คและมี Slot แบบต่างๆกัน แต่จะมีความเสถียรมากกว่าเพราะว่าจะใช้ไฟจากตัว Mainboard แล้วก็ไม่ต้องเสียช่อง USB เพราะเจ้าช่องนี้ก็ไม่ได้ใช้ทำอย่างอื่นอยู่แล้ว

แนวทางการเลือกซื้อแอร์การ์ด 3G ณ เวลานี้

ในตอนนี้มีผู้ให้บริการ 3 รายที่เปิดให้เราใช้งาน 3G กันได้แล้ว ถึงแม้จะเป็นเทคโนโลยีที่เพิ่งเปิดใช้บริการในบ้านเราแต่ว่าอุปกรณ์ที่รองรับก็มีการวางตลาดมาก่อนหน้านี้นานแล้ว เรามาดูกันว่าจะเลือกซื้อแอร์การ์ดที่จะนำมาช้กับเครือข่ายเหล่านี้อย่างไร

  • AIS อยู่ที่ย่านความถี่เดิมคือ 900 MHz เป็นใบอนุญาตทดสอบ ใช้ได้ที่ Central World กทม. ชลบุรี และเชียงใหม่ เป็นย่านความถี่ที่มีใช้กันทั้งในยุโรปและเอเชียซึ่งมีแอร์การ์ดและอุปกรณ์รองรับพอสมควร
  • ture ใช้ความถี่ 850MHz ซึ่งทับซ้อนกับความถี่ AIS GSM, Hutch CDMA2000 1x และ CAT CDMA2000 1xEVDO และใบอนุญาตทดสอบมีแถบความถี่เพียง 5MHz ใช้ได้หลายจุดในกทม. ความถี่ย่าน 850MHz เป็นมาตราฐานใน North America มีอุปกรณ์รองรับน้อยสักหน่อย เนื่องจาก Spectrum จำกัดย่านความถี่นี้ทาง DTAC อาจไม่ลงทุนขอใบอนุญาตทดสอบเหมือนทรู แต่จะรอประมูลย่านความถี่ 2100MHz หรือแปรสัมปทานใช้ความถี่ 1800MHz ซึ่งมีใช้ในประเทศญี่ปุ่น

 เทคนิคการเลือกซื้อแอร์การ์ด (Aircard) อย่างง่ายๆ

พูดกันเอาชนิดที่แบบเข้าใจกันง่ายๆก็คือเป็นโมเด็มแบบไร้สายที่เสียบผ่านช่อง USB และเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตผ่านโครงข่ายผู้ให้บริการโทรศัพท์เช่น AIS, DTAC, True เป็นต้น แล้วแอร์การ์ดต่างกับการเชื่อมต่อกับมือถืออย่างไร? ก็คือจุดประสงค์ในการใช้งานจะเหมือนกันเพียงแต่ว่าการเชื่อมต่อผ่านมือถือนั้นจะมีความยุ่งยากมากกว่าการใช้แอร์การ์ดเพราะต้องมีไดร์เวอร์และการตั้งค่าต่างๆในตัวเครื่องที่มีความซับซ้อนและถ้าใช้นานๆก็อาจจะมีผลทำให้แบตเตอรี่ของโทรศัพท์เสื่อมเร็วกว่าปกติได้ด้วย แล้วก็ในกรณ์ที่ใช้ซิมเดียวเล่นเน็ตก็พาลโทรเข้าไม่ติดไปอีก จึงสรุปว่าการใช้แอร์การ์ดดีกว่าการใช้มือถือถึงราคาจะใกล้เคียงกันก็เถอะ ทำไมต้องเป็นแอร์การ์ด? เป็นความจำเป็นที่คงเลี่ยงไม่ได้หากบ้านเราไม่มีเบอร์ 02 ที่จะใช้สมัคร Hi-Speed Internet หรืออยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณ Wi-Fi ที่จะใช้เชื่อมต่อและสำคัญมากสำหรับคนที่ต้องเดินทางออกนอกสถานที่เป็นประจำและทำงานที่เกี่ยวข้องกับการใช้อินเตอร์เน็ต

สิ่งที่เราควรจะต้องรู้ก่อนการเลือกแอร์การ์ด 3G

 ก่อนอื่นต้องถามกับคนขายก่อนว่าแอร์การ์ดนั้นรองรับกับทุกเครือข่ายหรือเปล่า เพราะมาตรฐานคลื่นความถี่สากลที่ใช้ในไทยแต่ล่ะค่ายก็จะไม่เหมือนกัน คือ

  • คลื่นความถี่ 850 MHz พัฒนาโดย TRUE และ DTAC
  • คลื่นความถี่ 900 MHz พัฒนาโดย AIS
  • คลื่นความถี่ 2100 MHz พัฒนาโดย กทช.
  • คลื่นความถี่ 1900 MHz และ 2100 พัฒนาโดย TOT
  • คลื่นความถี่ 850 MHz ( TRUE MOVE H ) พัฒนาโดย TRUE TRUE MOVE H

เลือกความเร็วเท่าไหร่ ที่เห็นๆวางจำหน่ายทั่วไปก็ไม่มีความเร็วตั้งแต่ 3.2-7.2 MBps ซึ่งความเร็วจริงๆที่เราได้รับก็จะขึ้นอยู่กับการแสดงการสมัครใช้งานของเรากับผู้ให้บริการด้วยเช่นกัน  แอร์การ์ดสเป็คเหมือนกันแต่ทว่าทำไมราคาไม่เท่ากัน? คำตอบคือบางยี่ห้อก็เป็นของเจ้าเดียวกับผู้ให้บริการ ราคาที่ต่างกันก็มักจะรวมโปรโมชั่นพิเศษเข้าไปแล้ว ตรวจสอบพื้นที่ให้บริการของแต่ละเจ้าก่อนซื้อแพ็คเกจ

 

การเลือกซื้อแอร์การ์ด(Aircard) 3G

ใครที่กำลังมองหาแอร์การ์ด 3G โปรดฟังทางนี้!

 

ดูเหมือนว่าเรื่องของเทคโนโลยี 3G ในบ้านเราจะเป็นที่พูดถึงกันอย่างมากเพราะจะทำให้เราสามารถที่จะเชื่อมต่อเข้าสู่โลกของอินเตอร์เน็ตได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนโดยเฉพาะเวลาอยู่นอกบ้านและก็ไม่ต้องทนกับความช้าชนิดที่ใจแทบขาดของ GPRS/EDGE เหมือนเช่นแต่ก่อน ทั้งในแง่ของการเชื่อมต่อความบันเทิงผ่านอินเตอร์เน็ตอย่างการดู Youtube ก็จะง่ายขึ้นเพราะไม่ต้องรอให้โหลดเสร็จแล้วค่อยดูเหมือนเช่นเคย สามารถดูได้ต่อเนื่องแบบไม่กระตุกหรือน้อยลงมากๆ ผ่านอุปกรณ์อย่างแอร์การ์ด 

แต่ก่อนการเลือกซื้อแอร์การ์ดที่เอาไว้เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตจะเน้นไปทางการใช้งานเฉพาะการรับส่งอีเมล์ซึ่งการใช้ GPRS/EDGE ซึ่งก็ถือว่าไม่มีปัญหาอะไรสำหรับการใช้งานในส่วนนี้ แต่ทุกวันนี้เทคโนโลยีเปลี่ยนมากเป็น 3G เราก็ยังคงจำเป็นที่จะต้องเลือกซื้อดีๆเหมือนกัน ไม่ให้โดนหลอกเอาได้

ทิปในการเลือกซื้อแอร์การ์ดแบบ 3G

เพื่อการทำงานที่เสถียรก็ควรเลือกใช้งานแบรนด์ที่มีมีชื่อเสียงและเชื่อถือได้อย่าง Sierra, D-Link เป็นต้นต้องดูในเรื่องของความเร็วให้ดีเพราะปัจจุบันที่ใช้อยู่จะมี 3.2 กับ 7.2 MBps ซึ่งถ้าจะให้ดีก็ขอแนะนำว่าเลือกตัวที่ความเร็วสูงไว้ก่อนเป็นดีตรวจสอบพื้นที่ให้บริการที่เราใช้บ่อยว่ารองรับสัญญาณของค่ายไหนได้บ้าง และถ้ารุ่นไหนที่สามารถรองรับได้หลายคลื่นความถี่ในตัวเดียวราคาก็จะแพงขึ้นมาอีกนิดหน่อย บางรุ่นเป็น Flash Drive ได้ด้วยบ บางรุ่นก็สามารถเสียบได้ในช่อง SD Card

คลื่นความถี่ที่รองรับ 3G ในบ้านเรา

  • คลื่นความถี่ 850 MHz พัฒนาโดย TRUE และ DTAC
  • คลื่นความถี่ 900 MHz พัฒนาโดย AIS
  • คลื่นความถี่ 2100 MHz พัฒนาโดย กทช.
  • คลื่นความถี่ 1900 MHz และ 2100 พัฒนาโดย TOT
  • คลื่นความถี่ 850 MHz ( TRUE MOVE H ) พัฒนาโดย TRUE TRUE MOVE H

การเลือกซื้อ “แอร์การ์ด”

ถ้าอยากจะให้โน๊ตบุ๊คของเราเล่นเน็ตได้ทุกที่ทุกเวลาก็คงจะเป็นต้องต้องพึ่งแอร์การ์ดกันล่ะครับ เพราะดูเหมือนจะเป็นวิธีที่ง่ายละสะดวกที่สุดที่จะทำให้เราเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ได้ ส่วนจะเลือกรุ่นไหนอย่างไรนั้น เรามาดูกัน

แอร์การ์ดที่เห็นๆกันอยู่ทุกวันนี้ส่วนมากจะเป็นแบบ USB กันหมดแล้วเนื่องจากการใช้งานที่สะดวก รูปร่างหน้าตาก็ละม้ายคล้ายแฟลชไดรว์เพียงแค่มีช่องให้เสียบซิมการ์ดเพิ่มเข้ามาเท่านั้นเองการจะเลือกซื้อแอร์การ์ดจะต้องคำนึงถึงซิมที่เราจะเอามาใช้ได้กับแอร์กาดนั้นด้วยนะครับ โดยดูว่าพื่นที่ที่เราใช้ส่วนใหญ่มีสัญญาณของค่ายไหนอยู่บ้าง เป็น 3G หรือ EDGE ซึ่งปัจจุบันนี้ แอร์การ์ดทุกตัวรองรับ EDGE เป็นมาตรฐานอยู่แล้วที่เราจะต้องคำนึงถึงก็คือส่วนของการรองรับ 3G เพราะในบ้านเราแต่ละค่ายแต่ละเจ้าก็ให้บริการในช่วงคลื่นความถี่ที่แตกต่างกันออกไป

1. AIS ใช้คลื่นความถี่ 900 MHz

2. DTAC กับ True ใช้คลื่นความถี่ 850 MHz

3. TOT รวมไปถึง i – Mobile 3GX / 365 3G / Mojo 3G / IEC 3G / i – Kool 3G ใช้คลื่นความถี่เดียวกันคือ 2100 MHz โดยเจ้าของคลื่นความถี่จริงๆ ก็คือ TOT

ดังนั้นการเลือกซื้อแอร์การ์ดจึงต้องคำนึงถึงว่าจะสามารถรองรับซิม 3G, EDGE ของผู้ให้บริการค่ายไหนได้บ้าง ตรงกับที่เราต้องการจะใช้หรือไม่ เพราะว่าในตัวแอร์กาดแต่ละรุ่น ก็รองรับได้ไม่เท่ากัน รวามไปถึงความเร็วเองก็เช่นกันที่อาจไม่เท่ากันด้วย ซึ่งรุ่นที่มีคุณมบัติรองรับได้มากกว่าก็จะได้เปรียบตรงที่ว่าเอาซิมของค่ายไหนมาใช้ก็ได้ เนื่องจากความครอบคลุมพื้นที่สัญญาณของผู้ให้บริการไม่เท่ากัน แอร์การ์ดที่มีวางจำหน่ายอยู่ในขณะนี้สามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มหลักๆด้วยกัน คือ

1. แอร์การ์ดของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แต่ละค่ายคือ AIS, DTAC, TrueMove ซึ่งมีวางจำหน่ายอยู่ตามศูนย์บริการนั่นเอง ส่วนใหญ่จะขายมาพร้อมซิมซึ่งมีโปรโมชั่นหรือแพ็จเกจให้มากับซิมเรียบร้อยแล้ว แต่จะมีข้อจำกัดในเรื่องของการใช้ซิมเนื่องจากมีความเป็นไปได้สูงที่แอร์การ์ดจากค่ายนั้นๆจะไม่สามารถนำซิมของค่ายมือถืออื่นๆมาใช้ได้เนื่องจากมีการล็อกไว้ให้แต่เฉพาะค่ายของตัวเองเท่านั้น แต่ก็จะมีข้อดีตรงที่ว่าราคาก็จะไม่แพงมากเนื่องจากเป็นการดึงลูกค้า ซึ่งบางรายก็จัดแพ็คเกจชนิดที่เหมือนได้ฟรีเลยทีเดียว

2. แอร์การ์ดเปล่าๆที่ไม่มีซิมติดมาด้วย ซึ่งจะเปิดกว้างมากสำหรับแอร์การ์ดในรุ่นนี้ ซึ่งสเปคจะระบุไว้อย่างชัดเจนว่ารองรับกับคลื่นความถี่ไหนได้บ้าง ความเร็วสูงสุดอยู่ที่เท่าไหร่ สามารถใช้กับค่ายไหนได้บ้าง หรืออาจจะเลือกเป็นรุ่นที่รองรับได้กับทุกค่ายที่ราคาจะแพงขึ้นมาหน่อยก็สามารถหาซื้อได้ตามห้างไอทีชั้นนำหรือสั่งซื้อออนไลน์ก็ได้เช่นกัน

แอร์การ์ด 3G แบบ USB หรือ MiFi เลือกอย่างไหนดี

แอร์การ์ด USB vs MiFi

 

เรื่องของอินเตอร์เน็ตไร้สายดูจะเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวเราเข้ามาทุกวัน ซึ่งถ้าเป็นในยุคก่อนๆหากจะเชื่อมเน็ตทีเราก็อาจจะต้องใช้มือถือเป็นโมเด็มเพื่อที่จะให้คอมพิวเตอร์ของเรานั้นสามารถที่จะเชื่อมกับโลกออนไลน์ได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่บ้าน และปัจจุบันมือถือก็ได้พัฒนามาเป็นสมาร์ทโฟนที่มีความฉลาดมากกว่ากจะเป็นแค่มือถือที่สามารถเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ได้ง่ายยิ่งขึ้นกว่าเดิม ก็ยิ่งดูเหมือนจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นไปอีก สมาร์ทโฟนบางรุ่นเองก็สามารถที่จะเป็นตัวกระจายสัญญาณ WiFi เพื่อให้อุปกร์อื่นๆสามารถใช้งานได้อีกด้วย พอมาถึงตรงนี้คำถามก็คือว่า ถ้ามือถือเราสามารถแชร์เน็ตได้อยู่แล้วจำเป็นหรือไม่ที่เราจะต้องซื้อแอร์การ์ดอีก วันนี้เราจะมาบรรยายถึงสรรพคุณของดีเสียของแอร์การ์ดแพื่อให้ทุกท่านได้ตัดสินใจไว้พอเป็นแนวทางครับ

ประเภทของแอร์การ์ดในปัจจุบัน

โดยในที่นี้จะของแยกประเภทออกเป็น 2 กลุ่มหลักๆคือแอร์การ์ดแบบ USB กับ แอร์กาดแบบไร้สายหรือ MiFi ซึ่งอันที่จริงแล้วยังมีรุ่นอื่นอีกมากมายแต่เนื่องจากที่เป็นที่นิยมใช้กันจะเป็นเจ้าสองตัวนี้ ซึ่งก็จะมีข้อดีของเสียแตกต่างกันออกไป มาดูกันว่าจุดเด่นจุดด้อยของแต่ละตัวนั้นมีอะไรกันบ้าง 

1. แอร์การ์ดแบบ USB จุดที่เด่นสุดของแอร์การ์ดประเภทนี้คือเรื่องของราคาที่ถูกว่าแบบไรสายพอสมควร ราคาก็มีตั้งแต่หลักร้อยไปถึงหลักหลายพันขึ้นอยู่กับรุ่นและคุณสมบัติต่างๆ ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ที่เรื่องของการรองรับเครือข่าย และความเร็วสูงสุดที่สามรถรับได้ ยิ่งถ้ารองรับได้เยอะราคาก็จะแพงขึ้นเป็นเงาตามตัว แต่ก็มีข้อจำกัดคือเราไม่สามารถที่จะนำไปใช้กับอุปกรณ์ที่ไม่มีช่อง USB ได้ หรือแท็บเล็ตบางรุ่นก็ไม่สามารถที่จะใช้แอร์การ์ดแบบ USB ได้ ซึ่งอุปกรณ์สำหรับแอร์การ์ดในรุ่นนี้คือ Notebook