การเลือกมาส์กให้เหมาะกับสภาพผิว
ผิวมัน มีสิว สิวเสี้ยน มีไขมันอุดตันในรูขุมขน ควร เลือกมาส์กที่มีส่วนผสมของโคลนเบส ซึ่งจะช่วยสร้างสมดุลให้ผิวได้ดี เน้นมาส์คที่มีการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวอย่างเป็นธรรมชาติ มีส่วนประกอบของ AHA หรือ BHA หรือส่วนประกอบของพืชธรรมชาติ เช่น แตงกวา ชาเขียว สารสกัดชา เกล็ดของรำข้าว และมีคุณสมบัติในการแทรกตัวเข้าไปยับยั้งการขับน้ำมันภายในเซลล์ผิว หรือ Sebum ที่คั่งค้างอยู่ตามรูขุมขน อันเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง และการอักเสบ
ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื่น ควร เลือกมาส์กที่มีสารอาหารที่ให้ความชุ่มชื่นกับผิว อาทิน้ำผึ้ง น้ำมันหรือออยล์ ว่านหางจระเข้ ใบบัวบก สาหร่าย เพื่อให้ชุ่มชื่นและแน่นกระชับขึ้น
ผิวบอบบางแพ้ง่าย ควรเลือกมาส์กที่มีส่วนผสมของชาเขียว คาโมมายล์ ใบบัวบก วิชซ์ฮาเซล สาหร่าย
ผิวมีปัญหา ฝ้า กระ จุดด่างดำ ควร เลือกมาส์กที่มุ่งเน้นให้ผิวขาวใส ลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ ซึ่งส่วนใหญ่มาส์กเหล่านี้จะมีส่วนผสมของ “วิตามินซี” เพื่อให้สีผิวที่ไม่สม่ำเสมอกลับมา เนียนเรียบ อ่อนนุ่ม เปล่งประกาย
ผิวมีริ้วรอย ควร เลือกมาส์กที่เสริมการทำงานของเซลล์ผิวให้แข็งแรง หรือมาส์กที่มีส่วนผสมของคอลลาเจน หรือสารบำรุงบริสุทธิ์จำพวก เปบไทด์ต่างๆ เพราะมีคุณสมบัติในการแทรกซึมเข้าสู่เซลล์ผิวลึกได้ดี จึงจะมีประสิทธิภาพในการช่วยลดเลือนริ้วรอย ทำให้ผิวเรียบเนียน ไร้ริ้วรอยลึกและตื้น
แนะนำ : การเลือกใช้มาส์กจะให้ได้ประโยชน์จะต้องเลือกให้เหมาะสมกับสภาพผิวและความต้องการ ส่วนจะทำมาส์กได้บ่อยแค่ไหนคงขึ้นอยู่กับชนิดของมาส์ก เช่น มาส์กที่ให้ความชุ่มชื้นสามารถทำได้ทุกวัน (สำหรับผิวแห้ง ผิวมีริ้วรอย และผิวบอบบางแพ้ง่าย) ส่วนมาส์กที่ช่วยให้ผิวขาว ลดความมันอาจจะทำเพียงแค่สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง นะค่ะ